วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ตลาดสามชุก 100 ปี


เป็น ตลาดห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) และรายล้อมด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทบไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง ย้อนอดีตกลับไปยุค สมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ยุคนั้นชาวบ้านจะนำของพื้นเมือง รวมทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขายให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ

ต่อ มาเมื่อริมแม่น้ำสุพรรณ กลายเป็นแหล่งทำนาที่สำคัญ มีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก ทำให้ตลาดสามชุกไม่จำกัดบริเวณอยู่เฉพาะริมน้ำ แต่ยังขยายมาถึงริมฝั่ง โดยแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้จำนวนมาก พร้อมๆกับมีการตั้งนายอากรคนแรก ชื่อ “ขุนจำนง จีนารักษ์”
       

ช่วง เวลาเฟื่องฟูของตลาดสามชุกกินเวลานานหลายสิบปี แต่หลังจากที่มีการตัดถนนผ่านสามชุก ผู้คนเปลี่ยนไปใช้ถนนเป็นเส้นทางสัญจรมากขึ้น ส่งผลให้ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และการค้าที่ตลาดสามชุกเริ่มซบเซา แต่ตลาดสามชุกก็ยังคงดำเนินวิถีของตลาดห้องแถวไปอย่างต่อเนื่อ
ด้วย ความที่ วิถีชีวิตและลักษณะทางกายภาพของชุมชนตลาดสามชุกมีกาลเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานับร้อยปี เหตุนี้ประชาคมชาวตลาดสามชุกจึงได้มีการปรับปรุง ฟื้นฟู และร่วมกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไม้ของตลาดสามชุกไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้ตลาดสามชุกกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง



เริ่มต้นจากซอยแรกที่เราเดิน โรงแรมอุดมโชค โรงแรมสำหรับแขกที่เดินทางมาค้าขายในอดีต ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินกิจการแล้ว แต่ก็เปิดให้เข้าชมโรงแรมในยุคกว่าร้อยปี




  



พิพิธภัณพ์เล็กๆ แฝงตัวอยู่ในตลาดแห่งนี้ ที่รวบรมเรื่องราว สินค้า รูปภาพต่างๆ ของเครื่องดื่มอัดลมน้ำดำ "ร้านบ้านโค้ก" ซึ่งจัดห้องแถวเล็กให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของสะสมจากความรักของเจ้าของที่มีต่อ สินค้าแบรนด์นี้
ร้านนี้ขายทองม้วนโบราณ หน้าตาไม่เหมือนทองม้วนที่เราเคยเห็น แต่รสชาติหวาน เค็ม กรอบอร่อยแบบวางไม่ลง หอมกลิ่นงาดำอีกด้วย คุณป้าที่ขายน่ารัก ใจดี แถมคุยด้วยว่าทองม้วนแกออกทีวีด้วยน๊ะ (มีรูปยืนยันตั้งไว้หน้าร้านด้วยนะ เอ๊า ทำเป็นเล่น) 

ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.oknation.net/blog/Rosefinchy/2008/10/27/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น